22.00 น.รียนเชิญคณะพบกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T เคาน์เตอร์เช็คอินสายการการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและดูแลอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน และโหลดสัมภาระ
01.05 น.นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385
04.55 น.เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นต่อเครื่อง โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK161
07.05 น.นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK161
11.20 น.เดินทางถึง สนามบินดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ผ่านพิธีศุลกากร และตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ
DUBLIN CASTLE
เริ่มต้นเปิดประสบการณ์ ณ ปราสาทดับลิน คือหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไอร์แลนด์ ตัวปราสาทมีอายุเกือบ 800 ปี เคยใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองของอังกฤษในไอร์แลนด์มายาวนาน ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างยุคกลางและยุคจอร์เจียน ชมความงดงามของห้องโถงพิธีการ (State Apartments), โบสถ์หลวงสไตล์โกธิค (Chapel Royal), ซากกำแพงยุคกลางใต้ดิน และสวน Dubh Linn ที่เป็นที่มาของชื่อเมือง Dublin

Grafton Street
เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้ง ณ Grafton Street คือถนนสายช้อปปิ้งใจกลางกรุงดับลินที่มีชีวิตชีวาตลอดวัน รายล้อมด้วยร้านแฟชั่นทั้งแบรนด์ระดับโลกและร้าน บูติกท้องถิ่น พร้อมคาเฟ่น่านั่งและเสียงดนตรีจากศิลปินริมทางที่ขับกล่อมบรรยากาศให้อบอุ่นและเป็นกันเอง

บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก The Samuel Hotel, Dublin City Centre หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Belfast
ก้าวข้ามสู่ เมืองเบลฟาสต์ เมืองหลวงของแคว้นไอร์แลนด์เหนือ คือเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการ ฟื้นฟูสมัยใหม่อย่างมีเสน่ห์ จากอดีตศูนย์กลางอุตสาหกรรมเรือชื่อดัง สู่เมืองทันสมัยที่มีชีวิตชีวา ไฮไลท์สำคัญคือ ศาลากลางเมือง (Belfast City Hall) อาคารหินอ่อนสไตล์บาโรกกลางจัตุรัสหลัก

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
Belfast City Hall
สัมผัสมนสเน่ห์ ณ Belfast City Hall หรือศาลากลาง เมืองเบลฟาสต์ คืออาคารสำคัญใจกลางเมือง สร้างขึ้นในช่วง ปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อแสดงถึงความมั่งคั่งของเบลฟาสต์ ในยุคอุตสาหกรรม ตัวอาคารโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ บาโรก อันวิจิตรงดงาม หินอ่อนสีขาวตัดกับหลังคาทองแดง สีเขียวทำให้ ดูโดดเด่นทั้งกลางวันและยามค่ำ
Giant's Causeaway
ชมความมหัศจรรย์ Giant’s Causeway คือ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดของไอร์แลนด์เหนือ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ด้วยภูมิทัศน์อันน่าทึ่งของเสาหินบะซอลต์รูปทรงหกเหลี่ยมที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบตามแนวชายฝั่ง เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 60 ล้านปีก่อน เรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ยังถูกขับเน้นด้วยตำนานพื้นบ้านของ “ยักษ์ฟินน์ แม็คคูล” ที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างทางเดินหินนี้

บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Bay view Hotel หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Londonderry
ก้าวข้ามสู่เมืองประวัติศาสตร์ เมือง Londonderry ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความสำคัญทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กำแพงเมืองศตวรรษที่ 17 ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1613 ถึง 1619 โดย Honourable The Irish Society เพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอก กำแพงนี้เป็นกำแพงเมืองที่สมบูรณ์ที่สุดในไอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
Glenveagh national Park
ดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบของเขต County Donegal ทางตอนเหนือของไอร์แลนด์ Glenveagh National Park คือสวรรค์แห่งธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน ป่าไม้เขียวขจี และทะเลสาบน้ำใสสะท้อนเงาท้องฟ้า ไฮไลท์สำคัญคือการเยี่ยมชม Glenveagh Castle ปราสาทสไตล์สก็อตติชบารอนเนียลริมทะเลสาบ Lough Veagh (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง)
Mount Errigal
สัมผัสความงดงามของ Mount Errigal คือภูเขาที่สูงที่สุดใน County Donegal และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของไอร์แลนด์ ด้วยรูปร่างทรงพีระมิดที่สง่างามและยอดเขาที่เปลี่ยนสีตามแสงแดดในแต่ละช่วงเวลา Errigal จึงเป็นแรงบันดาลใจของทั้งช่างภาพ ศิลปิน และนักเดินทางมาทุกยุคสมัย สำหรับโปรแกรมนี้ เราจะพาท่านชมวิวของภูเขาอย่างใกล้ชิดจากจุดจอดรถและจุดถ่ายภาพบริเวณฐานเขา ซึ่งสามารถมองเห็นยอดเขาได้อย่างเต็มตา

Donegal Town
ก้าวข้ามสู่ เมือง Donegal ตั้งอยู่บนเส้นทาง Wild Atlantic Way ซึ่งรายล้อมไปด้วยวิวทะเล ภูเขา และหน้าผาอันน่าทึ่ง เมืองเล็กแสนมีเสน่ห์ที่ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำ Eske ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับจัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และหัตถกรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะ ผ้าทอ Donegal Tweed ที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก เมืองยังตั้งอยู่บนเส้นทาง Wild Atlantic Way ซึ่งรายล้อมไปด้วยวิวทะเล ภูเขา และหน้าผาอันน่าทึ่ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก mill park hotel หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Sligo
รับยามเช้า ณ เขต Sligo เป็นจุดหมายที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ วรรณกรรม ชายฝั่ง และธรรมชาติได้อย่างงดงาม ตั้งอยู่เรียงริมชายมหาสมุทรแอตแลนติก มีวิวทะเล ทะเลสาบ และภูเขาที่โดดเด่น ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ภูเขา Ben Bulben รูปร่างแปลกตาราวกับ “โต๊ะหิน” ซึ่งปรากฏในตำนานและบทกวีของ W. B. Yeats

Mount Benbulben
พบความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ภูเขา BenbulbEN ตั้งโดดเด่นในเขต County Sligo ด้วยลักษณะยอดแบนและหน้าผาสูงชันที่ถูกแกะสลักโดยธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ไฮไลท์คือทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่มองเห็นได้จากหลายจุด เช่น สะพาน Luke’s Bridge ใกล้ Drumcliffe ซึ่งสามารถชมส่วนยอดแบนได้อย่างชัดเจน พร้อมกับมุมมองของฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
Mayo
ดื่มด่ำบรรยากาสสุดโรแมนติก ณ Mayo เป็นจังหวัดหนึ่งของไอร์แลนด์ตะวันตกที่ผสมผสานความงดงามทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว โดยตั้งอยู่บนเส้นทาง Wild Atlantic Way ที่ทอดยาวริมชายฝั่ง มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ตั้งแต่การเดินเลียบชายฝั่ง เคลื่อนผ่านทุ่งเขียว และไปจนถึงจุดชมวิวที่สูง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
Achill IslanD
รับกลิ่นอายลมทะเล ณ Achill Island โดดเด่นด้วยหน้าผาทะเลสูงชัน หาดทรายสีทองและน้ำทะเลใสบริสุทธิ์ ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ Keem Bay ชายหาดที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลก, เส้นทาง Atlantic Drive ที่ยาวกว่า 40 กิโลเมตรทอดเลียบหน้าผาและชายฝั่งทะเล น้ำทะเลที่สดใส และทิวทัศน์ภูเขาเขียวขจี

WESTPORT
เดินทางสู่เมือง Westport ใน County Mayo ถือเป็นจุดหมายที่ผสานทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติไว้อย่างลงตัว เมืองนี้มีเสน่ห์ตั้งแต่สถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียน ถนนที่เรียงแถวด้วยต้นไม้ และสะพานหินข้ามแม่น้ำ Carrowbeg ที่บรรยากาศสบาย ๆ
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Castlecourt Hotel, Spa & Leisure หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Connemera National park
ตระการตา กับวิวทิวทัศน์ ณ Connemara National Park เต็มไปด้วยภูมิทัศน์เขียวขจีของทุ่งหญ้า ภูเขา และทะเลสาบที่เงียบสงบ ไฮไลท์สำคัญคือการชมวิวจากยอดเขา Diamond Hill ที่มองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลของภูเขาและชายฝั่ง เยี่ยมชม Kylemore Abbey โบราณสถานสไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ สวยงามและสงบเงียบ

sky road
ดื่มด่ำกับเส้นทาง Sky Road เส้นทางเลียบชายฝั่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางชมวิวที่สวยที่สุดในไอร์แลนด์ ตลอดสองข้างทาง คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของมหาสมุทรแอตแลนติก หมู่เกาะเล็ก ๆ กระจัดกระจายกลางทะเล และภูเขาที่โอบล้อมอยู่ไกลสุดสายตา
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
Clifden
เมืองเล็กๆ แสนมีเสน่ห์อย่าง Clifden ตั้งอยู่ในใจกลางของภูมิภาค Connemara ทางตะวันตกของไอร์แลนด์ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและเงียบสงบที่สุดของประเทศ ที่นี่โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของภูเขา ทะเลสาบ และมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้ Clifden ได้รับฉายาว่า "เมืองหลวงของคอนเนมารา"

GALWAY
ก้าวข้ามสู่เมืองอันมีเสน่ห์ ณ Galway เมืองริมชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์ ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ ดนตรี และประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือการเดินเล่นในย่าน Latin Quarter ที่เต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และศิลปินเปิดหมวกที่สร้างสีสันให้ทุกซอกมุมของเมือง นอกจากนี้ยังสามารถแวะชม Spanish Arch สะพานเก่าแก่ริมแม่น้ำ Corrib หรือเลือกชิมอาหารทะเลสดๆ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก Radisson red galway หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Cliffs of Moher
ชมความมหัศจรรย์ ณ Cliffs of Moher หน้าผาหินสูงชันทอดตัวยาวกว่า 8 กิโลเมตร ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในเขต County Clare โดยจุดที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 214 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลท์สำคัญคือจุดชมวิวจาก O’Brien’s Tower ซึ่งสามารถมองเห็นหมู่เกาะ Aran, อ่าว Galway และแม้แต่เ ทือกเขา Twelve Bens และเป็นถิ่นอาศัยของนกทะเลนานาชนิด รวมถึงมีชื่อเสียงจากการเป็นฉากในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Harry Potter และ The Princess Bride (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง)

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
COUNTY KERRY
เดินทางเริ่มต้นที่ ท่าเรือ Killimer เป็นการล่องเรือที่ นำคุณข้ามแม่น้ำแชนนอนสู่ County Kerry ดินแดนแห่งธรรมชาติที่งดงามราวภาพวาด ขณะเรือแล่นผ่านผืนน้ำกว้างใหญ่ คุณจะได้ชื่นชมวิวชายฝั่งที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของไอร์แลนด์ตะวันตก เส้นทางนี้มุ่งสู่คาบสมุทร Dingle ที่มีภูเขา ทะเล และท้องฟ้าผสานกันอย่างลงตัว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)
killarney
ก้าวข้ามสู่เมืองชวนฝัน Killarney เมืองสวยงามที่ตั้งอยู่ใจกลาง County Kerry เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ผสานอย่างลงตัวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับอุทยานแห่งชาติ Killarney National Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลสาบสามแห่งที่สะท้อนภาพทิวเขาและป่าไม้เขียวชอุ่ม

บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก killarney Dromhall hotel หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Inch beach
รับยามเช้า ณ Inch Beach คือชายหาดที่มีความยาวทอดตัวออกไปในมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างสง่างาม บนคาบสมุทร Dingle ใน County Kerry ชายหาดแห่งนี้ยาวกว่า 5 กิโลเมตร และกว้างใหญ่จนรถสามารถขับลงไปถึงผืนทรายได้ ไฮไลท์ของที่นี่คือวิวทิวทัศน์แบบเปิดกว้าง ที่โอบล้อมด้วยทะเล ภูเขา และท้องฟ้ากว้างไกล เหมาะกับทั้งการเดินเล่น ถ่ายภาพ นั่งจิบกาแฟริมชายฝั่ง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
Slea head
สัมผัสเส้นทางชายฝั่งตะวันตก Slea Head เส้นทางขับรถชมวิวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยงามที่สุดในยุโรป เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความงดงามของมหาสมุทรแอตแลนติกที่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา พร้อมทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าเขียวขจีและโบราณสถานโบราณที่แทรกตัวอยู่ระหว่างทาง

dingle town
เพลินเพลิน ณ Dingle Town คือเมืองท่าเล็ก ๆ ที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ของชายฝั่งตะวันตกแห่งไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในคาบสมุทร Dingle ที่โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเล เมืองนี้มีชื่อเสียงจากบ้านเรือนสีสันสดใสที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือ บรรยากาศผ่อนคลาย และผู้คนเป็นมิตร ไฮไลท์ของ Dingle คือการเดินเล่นชมเมือง ทานอาหารทะเลสดใหม่ในร้านอาหารท้องถิ่นระดับพรีเมียม
บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก killarney Dromhall hotel หรือระดับเทียบเท่า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
BLARNEY CASYLE
ตระการตากับความงดงาม Blarney Castle หนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่มในเมืองคอร์ก (Cork) โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และตำนานอันลือเลื่องของ “Blarney Stone” หินศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าผู้ใดได้จุมพิตจะได้รับพรแห่งวาทศิลป์และการเจรจาอันเป็นเลิศ ไฮไลท์ของทัวร์คือการปีนขึ้นสู่ยอดปราสาทเพื่อสัมผัสประสบการณ์การจูบหิน Blarney พร้อมชมวิวพาโนรามาของสวนและชนบท

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
KILKENNY
ก้าวข้ามสู่เมือง Kilkenny เมืองเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Nore ไฮไลท์คือการเยี่ยมชม Kilkenny Castle ปราสาทโบราณอายุหลายร้อยปีที่ได้รับการบูรณะอย่างงดงาม พร้อมสวนสวยและทัศนียภาพที่เงียบสงบ นอกจากนี้ยังสามารถเดินเล่นใน Medieval Mile ถนนสายประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ โบสถ์เก่า ร้านคราฟต์ และคาเฟ่ท้องถิ่น
KILKENNY CASTLE
ตระการตา ณ Kilkenny Castle ปราสาทประวัติศาสตร์อันงดงามตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง Kilkenny เป็นสัญลักษณ์สำคัญของความรุ่งเรือง ในยุคกลางของไอร์แลนด์ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถันจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคกับสวนสไตล์วิคตอเรียน

บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ที่พัก KiLkenny Pembroke Hotel หรือระดับเทียบเท่า
13.10 น.นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK162
00.45 น.เดินทางถึง สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นต่อเครื่อง โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384
03.05 น.นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK384
12.05 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ