21.00 น.พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ...ระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4พบกับเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
00.30 น.ออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG934
07.40 น.นำท่านเดินทาง ถึง สนามบินเมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม..ผ่านพิธีศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ
ANTWERP
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแอนต์เวิร์ป (ANTWERP)นครแห่งศิลปะสร้างสรรค์ของประเทศเบลเยี่ยม นำท่านเข้าเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต ที่ใหญ่ที่สุดในเบลเยี่ยม “CHOCOLATE NATION” ภายในมีทั้งการให้ความรู้ด้านการเกษตรกรรมเม็ดโกโก้ กรรมวิธีการทำช็อกโกแลต วัฒนธรรมการรับประทาน นำท่านทำความรู้จักกับช็อกโกแลตชนิดที่ 4 ต่อจาก MILK, DARK และ WHITE นั่นคือ RUBY ซึ่งเป็นช็อกโกแลตสีชมพูทำจากเม็ดโกโก้สีชมพูมีรสชาติเปรี้ยว แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
BOURLA
ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบบราเซอรีชิคที่เต็มไปด้วยความสงบ บริการเมนูเบลเยียมแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น สเต็กที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน หอยแมลงภู่ สตูว์ฟลานดร์ หรือมะเขือเทศกับกุ้งเทากรอบ ในที่อากาศดี การนั่งโซน OUTDOOR ของร้าน ซึ่งตั้งอยู่ในทำเล Graanmarkt เป็นอีก 1 จุดที่ควรค่าแก่การทานอาหารกลางวัน
utrecht
นำท่านเดินทางสู่ เมือง Utrecht (อูเทร็คต์) เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่และตึกที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในย่านกลางเมืองที่มีอาคารที่สร้างในสไตล์โกธิคและยุคกลาง และยังมีคลอง ที่มีลักษณะพิเศษ คือมีระดับต่างกันระหว่างชั้นถนนและคลอง โดยมีพื้นที่ระเบียงในระดับล่างที่ทำให้เมืองดูมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์
De Haar Castle
นำท่านชม De Haar Castle ปราสาทใหญ่และหรูหราที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอกอทิกบนซากปราสาทเก่าตั้งแต่ปี ค.ศ.1892 (ตัวปราสาทเดิมมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 13) ภายในตกแต่งอย่างหรูหราราวกับปราสาทในเทพนิยาย มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวาง ประกอบด้วยห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องสมุดที่ยังมีหนังสือสมัยเก่าเก็บไว้อยู่ ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ห้องนอน ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ พร้อมของตกแต่งและถ้วยชามมากมาย รวมถึงห้องครัวขนาดใหญ่ เตาและอุปกรณ์ทำครัวที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
Amsterdam
นำท่านเดินทางสู่เมือง Amsterdam ที่สวยงามและโรแมนติค เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อเมืองนั้นก็นำมาจากชื่อแม่น้ำ Amstel รวมกับคำว่า Dam ที่หมายถึงเขื่อนของแม่น้ำ Amstel จึงกลายเป็นชื่อเมือง Amstelreadamme และเพี้ยนมาอัมสเตอร์ดัมแบบทุกวันนี้ โดยแต่เดิมอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆริมคลอง เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าเพชรของโลกอีกด้วย ที่สำคัญได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้อีกด้วย
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก NH Amsterdam Leidseplein หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นหมู่บ้านที่สวยงามและมีความน่าสนใจ คือ หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านไม่มีถนนแม้แต่สายเดียว แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเส้นทางสำหรับการขี่จักรยานบ้างแล้ว แต่ทว่าการคมนาคมและการขนส่งทั้งหมดก็ยังคงเป็นทางน้ำอยู่ดี โดยยานพาหนะหลักของหมู่บ้าน คือ เรือ ซึ่งจอดเรียงรายตามหน้าบ้านแต่ละหลังภายในหมู่บ้าน
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
DAM SQUARE
จากนั้นออกเดินทางสู่ ดามสแควร์หรือจัตุรัสดาม เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ new church
Red Light District
นำท่านเปิดประสบการณ์ชม ย่านโคมแดง ของเนเธอร์แลนด์แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีและยังเป็นที่ตั้งของอาคารที่ที่เก่าแก่ที่สุดในอัมสเตอร์ดัม
บริการอาหารค่ำภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก NH Amsterdam Leidseplein หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ZAANSE SCHANS
นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ หมู่บ้านอนุรักษ์กังหันลมเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยอยู่ใกล้ๆกับ เมือง ZAANDAM และเมือง ZAANDIJK โดยหมู่บ้านแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของกังหันลมเอาไว้เป็นอย่างดี ท่านที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้จะได้พบกับความสวยงามอย่างลงตัวของหมู่บ้านที่สร้างขึ้นสไตล์บ้านไม้แบบฮอลแลนด์ สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทที่สวยงาม ซึ่งประกอบไปด้วยแม่น้ำทุ่งหญ้าและการปศุสัตว์
Windmill De Kat
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูป และเที่ยวชมภายในหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์
บริการอาหารกลางวัน
Rotterdam
นำท่านเดินทางสู่เมือง Rotterdam (รอตเทอร์ดาม) เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์บริเวณปากแม่น้ำเมิซไหลลงสู่ทะเลเหนือ Rotterdam (รอตเทอร์ดาม) ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญอันดับหนึ่ง เนื่องจากมีท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีเรือสินค้ามากมายจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้าออกตลอดเวลา ที่ท่าเรือรอตเทอร์ดาม
The Cube Houses
นำท่านเดินทางชม The Cube Houses เป็นบ้านทรงลูกบาศก์เอียง 45 องศา ถูกสร้างไว้บนเสาหกเหลี่ยมเป็นรูปร่างแปลกตา จุดประสงค์หลักที่สร้างบ้านลักษณะนี้คือเพื่อประหยัดพื้นที่การใช้สอยนั่นเอง นำท่านเดินเล่น ณ The Market Hall (De Markthal) เป็นตลาดหรูหราในร่มที่จำหน่ายอาหารสดและอาหารปรุงสุกกว่าร้อยร้านค้า
บริการอาหารค่ำสุดพิเศษบน EUROMAST
ที่พัก Savoy HotelRotterdamที่พักหรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Bruges
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรูจ (Bruges) เมืองชายฝั่งทะเลของเบลเยี่ยม เสน่ห์ของเมืองบรูจคือ อาคารบ้านเรือนโบสถ์ ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเฟลมมิชและเรเนซองส์ ที่วิจิตรและสวยงาม ตึกรามบ้านช่องมีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ทางตอนเหนือของเมืองมีลำน้ำที่ใช้ในการคมนาคมรอบ ๆ ได้ทำให้บรูจเป็นที่รู้จักกันในนาม “เวนิสเหนือ” จากนั้นนำทุกท่านชมความสวยงามริมแม่น้ำ โดย การล่องเรือ ซึ่งเรือที่ใช้เป็นเรือแบบเปิดไม่มีหลังคาเปิดรับลมพร้อมชมบรรยากาศริมแม่น้ำ
Market Square
นำท่านชม Market Square เป็นจัตุรัสของเมือง และเป็นหัวใจสำคัญของเมืองบรูจส์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) อีกด้วย ใจกลางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่างหอระฆัง Belfort ศาลาว่ากลางประจำจังหวัดสไตล์นีโอกอธิก ตรงกลางมีรูปปั้นของ Jan Breydel และ Pieter de Coninc ผู้นำกลุ่ม Bruges Matins รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1887 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านชาวฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 Jan Breydel เป็นหัวหน้าคนขายเนื้อ และ Pieter de Coninck เป็นหัวหน้าของช่างทอผ้า
บริการอาหารกลางวัน ณ CAMBRINUS
Belfort Belfry
นำท่านชม Belfort Belfry หอระฆังเบลฟอร์ หอระฆังของเมืองบรูจส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง หอระฆังเป็นส่วนหนึ่งของอาคารสมัยศตวรรษที่ 13 ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1999 มีความสูง 83 เมตร เราสามารถเดินขึ้นบันได 366 ขั้นไปด้านบน เพื่อชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมือง ระหว่างทางเราจะได้เพลิดเพลินกับอะไรหลายๆ อย่าง รวมทั้งระฆังที่มีจำนวนมากถึง 47 อัน
Gruuthuse Museum
จากนั้นเดินชม Gruuthuse Museum ซึ่งไม่ไกลจากหอระฆังใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที เราจะเห็นพิพิธภัณฑ์ Gruuthuse ครั้งหนึ่งที่นี่เป็นคฤหาสน์ของตระกูล Gruuthuse ซึ่งเป็นหนึ่งในคฤหาสน์ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองบรูกส์และผูกขาดตลาดการผลิตเบียร์เจ้าใหญ่ ภายในมีสมบัติเก่าแก่มากมาย
Ghent
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมจากยุคกลางที่ยังคงสภาพสมบูรณ์จากการใส่ใจดูแลอย่างดีของชาวเมือง ตลอดจนศูนย์กลางของเกนต์ยังเป็นพื้นที่ปลอดรถยนต์ ทำให้สามารถสร้างพื้นที่สำหรับเยี่ยมชมเมืองให้นักท่องเที่ยวได้อย่างครอบคลุม และมีการวางผังเมืองให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินได้อย่างสะดวกสบาย และเกนต์ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกับพิพิธภัณฑ์สำคัญของประเทศหลายแห่ง ทำให้นอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถมาเดินเก็บทัศนียภาพอันสวยงามได้แล้ว ยังถือเป็นพื้นที่บ่มเพาะเยาวชนคุณภาพที่มีสภาพแวดล้อมซึ่งเหมาะต่อการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพที่สุด
Vrijdagmarkt
นำท่านผ่านชม Vrijdagmarkt เป็นจัตุรัสที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดของเมือง ที่นี่มีรูปปั้นของ Jacob Van Artevelde หรือ James van Artvelde ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมือง
Ghent's Canals
นำท่านเดินชม Ghent's Canals ซึ่งกิจกรรมอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวเมืองเกนต์(Ghent) คือ การล่องเรือละเลียดบรรยากาศริมคลอง สามารถเลือกนั่งแบบเรือสาธารณะ หรือเลือกแบบส่วนตัวก็ตามสะดวก สามารถเพลิดเพลินกับการพายเรือคายัคเพื่อชมความสวยงามรอบคลอง ชื่นชมธรรมชาติของเมืองได้
Saint Michael's Church
นำท่านผ่านชม Saint Michael's Church โบสถ์เซนต์ไมเคิลตั้งอยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำลี(Leie)เป็นโบสถ์สไตล์โกธิกขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยหินทราย การตกแต่งภายในเป็นแบบนีโอโกธิค
Sint Michielsbrug Bridge
Sint-Michielsbrug Bridge สะพานเซนต์ไมเคิล เป็นสะพานหินโค้ง อยู่ถัดจากโบสถ์ Saint Michael's Church ตรงนี้นับเป็นจุดชมบรรยากาศของระแวกนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
Brussel
นำท่านชมความสวยงามของ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความใหญ่โต เเละสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่าง คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) เเละสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ อะตอมเมี่ยม (THE ATOMIUM) เป็นประติมากรรมรูปอะตอมมหึมา สื่อถึงเป็นสัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อ ปี ค.ศ. 1959
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Brussels Marriott Hotel Grand Place หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Dinant
นำท่านเข้าสู่เมือง ดิแนนท์ เป็นเมืองเล็กๆขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติสวยงาม ตัวเมืองเก่่าโดดเด่นสง่าด้วยหน้าผาอันสูงชันและโบสถ์เก่าจากศตวรรษที่ 13 ขั้นกลางด้วยริมแม่น้ำมิวส์ ได้รับความมั่งคั่งจากโอกาสทางการเกษตรที่นําเสนอโดยดินแดนที่อุดมสมบูรณ์
Meuse
นำท่านเดินเล่นริมแม่น้ำมิวส์(Meuse) แม่น้ำสายสำคัญของยุโรปที่ไหลมาจากฝรั่งเศส ผ่านเบลเยี่ยม ไปเนเธอแลนด์ นำท่านบรรยากาศริมแม่น้ำมิวส์(Meuse) มีอาคารสีสวยราวกับลูกกวาดขนาบกับสายน้ำ ด้านหลังเป็นหน้าผาสูงที่ตั้งของป้อมปราการ ทำให้ภาพสะท้อนลงแม่น้ำนั้นสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังได้เพลิดเพลินกับร้านรวงต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
Charles-de-Gaulle Bridge
นำท่านเดินชมสะพาน Charles-de-Gaulle Bridge สะพานนี้ตั้งตามชื่อของประธานาธิบดีชาร์ลส์ เดอ โกลของฝรั่งเศส เพื่อระลึกถึงการปรากฎตัวของเขา สะพานนี้พาดผ่านสองฝั่งของแม่น้ำมิวส์(Meuse) นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองดิแนนท์(Dinant) จุดเด่นของสะพาน Charles de Gaulle Bridge ก็คือบรรดาแซกโซโฟน ขนาดใหญ่ แซกโซโฟรเหล่านี้ทำขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ อ็องตวน-โฌแซ็ฟ "อาดอลฟ์" ซักซ์(Antoine-Joseph "Adolphe" Sax) นักออกแบบเครื่องดนตรีชาวเบลเยี่ยม และเป็นผู้คิดค้นเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่า แซกโซโฟน
Citadelle de Dinant
นำท่านผ่านชม Citadelle de Dinant เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเนินผาแห่งนี้เป็นจุดที่ขึ้นไปชมวิวของเมืองดิแนนท์(Dinant) ได้อย่างดีเยี่ยม ด้านในเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับการสู้รบ นำท่านขึ้นกระเช้าไปด้านบน เพื่อชมความสวยงามของเมืองดิเนนท์ ได้เป็นอย่างดี หือท่านสามารถเลือกเป็นการเดินเท้าผ่านบันได 400 กว่าขั้นก็สามารถทำได้
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
Tournai
นำท่าเข้าสู่เมืองตูแนร์ ถือเป็นเมืองที่มีมรดกสำคัญทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในเบลเยียม มีความโดดเด่นผสมผสานสถาปัตยกรรมทั้ง สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ และ กอทิก และ หอระฆัง ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเบลเยียม
Tournai Cathedral or Cathedral of Our Lady
นำท่านผ่านชม มหาวิหารตูร์แน หรืออาสนวิหารแม่พระแห่งตูร์แน สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระนางมารีย์พรหมจารี เป็นสถาปัตยกรรมกอทิกแบบตูร์แน(Gothique tournaisien) เป็นสถาปัตยกรรมช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างโรมาเนสก์กับกอทิกที่มีสวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ.2000
Grand Place
นำท่านชม Grand Place จัตุรัสสำคัญของเมือง ที่นี่เป็นลานกว้างที่รายล้อมด้วยตึกอาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ บริเวณนี้เราจะพบเห็นรูปปั้นของ Marie-Christine de Lalaing หรือ Philippe-Christine de Lalaing ผู้เคยปกป้องเมืองตูร์เน(Tournai) กับอเล็กซานเดอร์ ฟาร์เมเซ(Alexander Farnese) ยุคแห่งปาร์มา(Parma) ในปี ค.ศ. 1581
Belfry of Tournai
นำท่านผ่านชม หอระฆังแห่งตูร์เน สูง 72 เมตร มีบันได 256 ขั้น เป็นหอระฆังแบบลอยตัวที่มีต้นกำเนิดในยุคกลาง เป็นหอระฆังที่มีความเก่าแก่ที่สุดในเบลเยี่ยม การก่อสร้างหอระฆังเริ่มขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ. 1188 ระฆังดั้งเดิมถูกไฟไหม้เมื่อปลายศตวรรษที่ 14 ในอดีตหอระฆังมีหน้าที่ส่งสัญญาณให้ชาวเมือง คอยสังเกตเรื่องของไฟ และศัตรู และยังทำหน้าที่เป็นคุกอีกด้วย หอระฆังเปิดตลอดทั้งปีตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Brussels Marriott Hotel Grand Place หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
Leuven
นำท่านเข้าสู่เมือง ลูเวน ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกของกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโรงเบียร์ บนจัตุรัสกลางคือศาลากลางศตวรรษที่ 15 ที่มียอดแหลมสูง อาคารตกแต่งด้วยรูปปั้นหลายร้อยรูปของบุคคลท้องถิ่น ตัวละครในพระคัมภีร์ และนักบุญ
Town hall
นำท่านผ่านชม Town hall หรือ City hall ศาลาว่ากลางเมือง อาคารหลังงาม แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1448-1469 ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงจัตุรัส Grote Markt เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าวิจิตรบรรจงแห่งหนึ่งของเบลเยี่ยม ภายนอกตกแต่งด้วยรูปปั้นแกะสลักจำนวนมาก พร้อมธงสวยแปลกตา ภายในเป็นที่รวบรวมงานศิลปะและงานประติมากรรม
St. Peter's Church
นำท่านผ่านชม โบสถ์เซนต์ปีเตอร์(St. Peter's Church หรือ Sint-Pieterskerk) โบสถ์นิกายโรมันคาธอลิก สถาปัตยกรรมแบบโกธิก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 งดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคซึ่งแตกต่างจากสถาปัตยกรรมแบบโกธิคทั่วๆ ไปที่ต้องมียอดปลายแหลม แต่แม้ว่าจะไร้ยอดแหลมสูงตระหง่าน โบสถ์แห่งนี้ก็มีความสวยงามโดดเด่นเฉพาะตัวและยังถูกรวมอยู่ในรายชื่อหอระฆังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO)
Groot Begijnhof
นำท่านเดินชม Groot Begijnhof เป็นตึกเก่าแก่สร้างจากอิฐสีแดงกว่า 100 หลัง ประหนึ่งเมืองเล็กๆ เมืองนึงในเมืองเลอเวน(Leuven) ในอดีตที่นี่เคยเป็น Beguinages ที่พักอาศัยของ Beguines หรือผู้หญิงโสดไม่แต่งงานที่อุทิศตนให้กับศาสนา มีลักษณะคล้ายแม่ชีในศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นที่พักของอาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัย Groot Begijnhof ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO) หรือ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี 1998
Brussel
นำท่านชมความสวยงามของ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความใหญ่โต เเละสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่าง คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) เเละสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ อะตอมเมี่ยม (THE ATOMIUM) เป็นประติมากรรมรูปอะตอมมหึมา สื่อถึงเป็นสัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อ ปี ค.ศ. 1959
Grand Place
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกรองด์ปลาซ เป็นจัตุรัสกลางบรัสเซลส์ และยังถือว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก ลักษณะเด่นอีกอย่างคือล้อมรอบไปด้วยศาลากลางสไตล์กอทิกซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถแวะไปร้านกาแฟและร้านช็อกโกแลตเบลเยียมอันเลื่องชื่ออีกด้วย
Notre Dame du Sablon
นำท่านชม Notre Dame du Sablon เป็นโบสถ์คาทอลิกสไตล์โกธิกสมัยศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ของบรัสเซลส์(Brussels) โบสถ์สีเทาขาว หน้าต่างเป็นกระจกสีสวยงาม สร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกับมหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา และพบในเมืองตอนบนของบรัสเซลส์และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในเบลเยียม ห้องโถงกลางมีแสงธรรมชาติที่สวยงามซึ่งส่องมาจากหน้าต่างกระจกสีสิบเอ็ดบาน แต่ละบานมีความยาว 49 ฟุต (15 เมตร) มันเป็นหน้าต่างกระจกสี จํานวนมากที่ล้อมรอบและส่องสว่างแท่นบูชาอย่างสง่างาม
Manneken Pis
นำชมและถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์แมนเนเก้นพิส เด็กชายตัวเล็กๆ กำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยมอิสระแก่ทุกท่านในการเดินเล่นและเลือกซื้อ ของที่ระลึก เช่น ผ้าลูกไม้ลายหวาน, ช็อกโกแลต แสนอร่อย รวมไปถึง วาฟเฟิลหน้าต่างๆ
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก Brussels Marriott Hotel Grand Place หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
THE ATOMIUM
นำท่านถ่ายรูปกับ อะตอมเมี่ยม (THE ATOMIUM) ซึ่งเป็นประติมากรรมรูปอะตอมมหึมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 1959 จากนั้นสู่จัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงกล่าวขานกันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป “กรองปลาส” ชมตึกสวยๆ แถวนี้ เรียกว่า Gildhuizen ซึ่งแต่ละหลังจะมีลักษณะการก่อสร้างและประดับประดาที่สวยงามแตกต่างกันออกไป
10.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ เพื่อให้ทุกท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
13.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG935
05.35 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
